แหล่งท่องเที่ยวจีน
- พระราชวังกู้กง The Forbidden City
“The Forbidden City”หรือนครต้องห้าม ตั้งอยู่ใจกลางของกรุงปักกิ่ง เมืองหลวงของประเทศจีน และอยู่ทางตอนเหนือของจตุรัสเทียนอันเหมิน พระราชวังแห่งนี้ เป็นเขตหวงห้ามไม่ไห้ประชาชนเข้า แม้แต่ข้าราชการชั้นสูง ยังต้องขออนุญาตเป็นกรณีพิเศษ จึงเรียกพระราชวังนี้ว่า“พระราชวังต้องห้าม” จักรพรรดิจะทรงประทับอยู่ในพระราชวังแห่งนี้ กั้นพระองค์จากโลกภายนอก โดยมีสนมกำนัล ขันที และข้าหลวงรับใช้ ซึ่งคนเหล่านี้ต้องอาศัยอยู่ในนครต้องห้ามตลอดชีวิต
- กำแพงเมืองจีน The Great Wall
“The Great Wall” หรือ ที่เรารู้จักกันดีในชื่อ“กำแพงเมืองจีน” บ้างก็เรียกว่า“กำแพงหมื่นลี้” เพราะมีความยาวถึง 6,350 กิโลเมตร กำแพงเมืองจีนสร้างเมื่อกว่า 2,500 ปีมาแล้ว ตั้งแต่ก่อนสมัยของจิ๋นซีฮ่องเต้ จักรพรรดิองค์แรกในประวัติศาสตร์จีน จุดประสงค์ก็เพื่อป้องกันการรุกรานจากชนเผ่าทางตอนเหนือ โดยมีการก่อสร้างเพิ่มเติมโดยฮ่องเต้องค์ต่อมาอีกหลายพระองค์ จนสำเร็จในที่สุด และนับเป็นหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคกลางด้วย
- สุสานจิ๋นซีฮ่องเต้ The Terracotta Warriors
“The Terracotta Warriors” หรือ “สุสานจิ๋นซีฮ่องเต้” สุสานของจอมจักรพรรดิแห่งราชวงศ์ฉิน เป็นสุสานที่เต็มไปด้วยหุ่นดินเผาของทหารและม้านับหมื่น เล่ากันว่า“จิ๋นซีฮ่องเต้” มีพระบัญชาให้สร้างมหาสุสานเพื่อเป็นที่พักผ่อนชั่วนิรันดร์ โดยใช้ช่างฝีมือและคนงานกว่าเจ็ดแสนคนปั้นหุ่นทหารจากแบบที่เป็นคนจริง เมื่อปั้นเสร็จคนที่เป็นแบบจะถูกสังหารให้วิญญาณมาสถิตในหุ่นเพื่อพิทักษ์สุสาน ทุกวันนี้ก็ยังไม่มีใครพบที่ฝังพระศพของจิ๋นซีฮ่องเต้ และที่นี่ก็กลายมาเป็นหนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ที่ตะลึงกันทั่วโลก
- หยางโจว Karst Mountains in Yangshuo
“Karst Mountains” ในเมืองหยางโจว เป็นภูเขาที่สวยงามและมีชื่อเสียงมาก ตั้งอยู่ที่มณฑลกวางซีซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของจีน ทิวทัศน์ที่สวยที่สุดของที่นี่คือการมองจากหยางโจว เขตเทศบาลเล็กๆ บริเวณชานเมือง“กุ้ยหลิน” ซึ่งเป็นเมืองเอกของมณฑลกวางซี
- Hangzhou – Paradise on Earth
“หางโจว” (Hangzhou) ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของมณฑลเจ้อเจียง ทางตะวันออกของจีน เป็นสวรรค์บนดินที่ล้อมรอบด้วย“ทะเลสาบซีหู” ซึ่งเป็นสัญลักษณ์สำคัญของเมือง และเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจมากที่สุด
- จิ่วจ้ายโกว Jiuzhaigou
หุบเขา“จิ่วจ้ายโกว” (Jiuzhaigou) เป็นพื้นที่อนุรักษ์ธรรมชาติทางตอนเหนือของมณฑลเสฉวน ประเทศจีน มีทะเลสาบที่สวยมหัศจรรย์เหลือจะบรรยาย ยิ่งในฤดูใบไม้ร่วง สีเหลืองของใบไม้สะท้อนผ่านสีเขียวของผืนน้ำ เกิดเป็นภาพที่สะกดทุกสายตา จนในปี พ.ศ. 2535 องค์การยูเนสโกได้ประกาศพื้นที่นี้ให้เป็นมรดกโลก และเป็น World Biosphere Reserve ใน พ.ศ. 2540
- พระราชวังโปตาลา Potala Palace, Lhasa
“พระราชวังโปตาลา” ตั้งอยู่ที่กรุงลาซา เขตปกครองตนเองทิเบต ประเทศจีน ปราสาทนี้ถูกสร้างในลักษณะของวังซ้อนวัง พระราชวังวงนอกเรียกว่า วังขาว เพราะทาสีขาว สร้างเสร็จ ปี ค.ศ. 1648 พระราชวังชั้นในเรียกว่าวังแดง ได้ชื่อตามผนังที่ทาสีแดง สร้างที่หลังวังขาวเกือบ 50 ปี ปัจจุบันพระราชวังโปตาลากลายเป็นพิพิธภัณฑ์และสถานสักการะ ภายในวังขาว มีสำนักงาน โรงเรียนศาสนา ส่วนวังแดงเป็นส่วนที่ยังใช้ประกอบพิธีกรรมอยู่ เป็นศูนย์รวมใจของโปตาลา
- หอบูชาฟ้า เทียนถาน
เทียนถานตั้งอยู่ทางทิศใต้ของกรุงปักกิ่ง สร้างขึ้นมาตั้งแต่สมัยราชวงศ์หมิง ค.ศ.1420 เปิดให้ผู้คนทั่วไปสามารถเข้าได้เมื่อปี 1949 มีเนื้อที่ทั้งหมด 2.73 ตารางกิโลเมตร เป็นสถานที่ซึ่งจักรพรรดิแห่งราชวงศ์หมิง และราชวงศ์ชิงใช้เป็นที่บวงสรวงเทพยดา พระจักรพรรดิจะเสด็จไปประกอบพระราชพิธีบวงสรวงที่นั่นเพื่อให้การเก็บเกี่ยวได้ผลอุดม ตั้งแต่เริ่มนั้นเทียนถานใช้เป็นสถานที่บูชาทั้งฟ้าและดิน จนมาถึงสมัยของฮ่องเต้เจียจิ้งแห่งราชวงศ์หมิง (พ.ศ.2065-2110) จึงได้มีการสร้างหอบูชาดิน หอบูชาพระอาทิตย์ และหอบูชาพระจันทร์ แยกออกไปต่างหาก เทียนถานจึงเหลือชื่อเรียกเพียงหอบูชาฟ้า
- สุสาน 13 กษัตริย์
สุสาน 13 กษัตริย์ หรือวังใต้ดิน (สือซานหลิง) ตั้งอยู่ทางชานเมืองด้านตะวันตกเฉียงเหนือของกรุงปักกิ่ง ห่างจากตัวเมือง 50 กว่ากิโลเมตร เป็นสถานที่บรรจุพระศพของพระจักรพรรดิราชวงศ์หมิง 13 องค์ การก่อสร้างยืดเยื้อมาเป็นเวลากว่า 200 ปี ตั้งแต่เริ่ม ทำการก่อสร้างในปี ค.ศ.1409 จนถึงราชวงศ์หมิงสิ้นสุดลงในปีค.ศ. 1644
ในบรรดา 13 สุสานนี้ สุสานแห่งที่มีขนาดใหญ่ที่สุดและน่าสนใจที่สุดคือสุสาน “ฉางหลิง” ที่มีสิ่งก่อสร้างอันใหญ่โตมหึมาบนผิวดินกับสุสาน “ติ้งหลิง”หรือ “วังใต้ดิน”ที่ได้ขุดพบ สุสานฉางหลิงเป็นสุสานของจักรพรรดิ “จูตี้” ซึ่งครองราชสมบัติระหว่าง ค.ศ. 1402 – 1424 ในสมัยราชวงศ์หมิง สิ่งก่อสร้างสําคัญในบริเวณสุสานนี้มีพระโรงหลิงเอินซึ่งใหญ่โตเท่ากับพระที่นั่งไท่เหอในพระราชวังโบราณ แต่ที่เด่นกว่าพระที่นั่งไท่เหอก็คือ เสา ขื่อ อกไก่ ระแนง ตลอดจนชายคาของพระที่นั่งล้วนสร้างด้วยไม้ที่มีชื่อว่า “หนานมู่” ซึ่งมีเนื้อไม้ที่แข็งละเอียดและมีกลิ่นหอม เสาขนาดใหญ่ 32 ต้นในพระโรงหลิงเอินใช้ไม้หนานมู่ทั้งนั้น
ในบรรดา 13 สุสานนี้ สุสานแห่งที่มีขนาดใหญ่ที่สุดและน่าสนใจที่สุดคือสุสาน “ฉางหลิง” ที่มีสิ่งก่อสร้างอันใหญ่โตมหึมาบนผิวดินกับสุสาน “ติ้งหลิง”หรือ “วังใต้ดิน”ที่ได้ขุดพบ สุสานฉางหลิงเป็นสุสานของจักรพรรดิ “จูตี้” ซึ่งครองราชสมบัติระหว่าง ค.ศ. 1402 – 1424 ในสมัยราชวงศ์หมิง สิ่งก่อสร้างสําคัญในบริเวณสุสานนี้มีพระโรงหลิงเอินซึ่งใหญ่โตเท่ากับพระที่นั่งไท่เหอในพระราชวังโบราณ แต่ที่เด่นกว่าพระที่นั่งไท่เหอก็คือ เสา ขื่อ อกไก่ ระแนง ตลอดจนชายคาของพระที่นั่งล้วนสร้างด้วยไม้ที่มีชื่อว่า “หนานมู่” ซึ่งมีเนื้อไม้ที่แข็งละเอียดและมีกลิ่นหอม เสาขนาดใหญ่ 32 ต้นในพระโรงหลิงเอินใช้ไม้หนานมู่ทั้งนั้น
- พระราชวังฤดูร้อน อี้เหอหยวน
พระราชวังฤดูร้อน อี้เหอหยวน ตั้งอยู่ในเขตไห่เตี้ยน ห่างจากตัวเมืองปักกิ่งไปทางตะวันตกเฉียงเหนือ 15 กิโลเมตร พระราชวังแห่งนี้เป็นวังกึ่งอุทยานที่สวยงามมาก สร้างขึ้นประมาณ 800 ปีแล้วสมัยราชวงศ์จิ๋น แต่ผู้ที่ทำให้สิ่งก่อสร้างในนี้สวยงามเป็นที่เลื่องลือ ก็คือพระนางซูสีไทเฮาแห่งราชวงศ์ชิง อันเป็นราชวงศ์สุดท้ายของจีน ชื่อเดิมมีเปลี่ยนกันไปหลายชื่อ แต่พระนางตั้งชื่อให้ใหม่ว่า อี้เหอหยวน แปลว่าอุทยานเพื่อพลานามัยอันผสมกลมกลืนกันได้ด้วยดี
เมื่อเดินเข้าไปในบริเวณ สิ่งแรกที่เห็นคือทะเลสาบกว้างใหญ่ ซึ่งเกิดจากแรงงานคนขุดขึ้นมา แล้วเอาดินที่ขุดพูนขึ้นไปเป็นเนินเขาข้างทะเลสาบนั้นเอง ผู้สร้างคือฮ่องเต้เฉียนหลง ใช้ในการฝึกซ้อมทัพเรือ
สวนสาธารณะ “อี้เหอหยวน” หรือวังฤดูร้อน ตั้งอยู่ในเขตชานเมืองด้านทิศตะวันตกเฉียงเหนือของกรุงปักกิ่ง เป็นพระราชอุทยานที่มีทัศนียภาพที่สวยงามมากแห่งหนึ่ง มีเนื้อที่ทั้งหมด 2.9 ตารางกิโลเมตร ส่วนใหญ่เป็นทะเลสาบคุนหมิง ประกอบด้วยเนื้อที่ที่เป็นนํ้า 3 ส่วน เนื้อที่ที่เป็นดิน 1 ส่วน
เมื่อเดินเข้าไปในบริเวณ สิ่งแรกที่เห็นคือทะเลสาบกว้างใหญ่ ซึ่งเกิดจากแรงงานคนขุดขึ้นมา แล้วเอาดินที่ขุดพูนขึ้นไปเป็นเนินเขาข้างทะเลสาบนั้นเอง ผู้สร้างคือฮ่องเต้เฉียนหลง ใช้ในการฝึกซ้อมทัพเรือ
สวนสาธารณะ “อี้เหอหยวน” หรือวังฤดูร้อน ตั้งอยู่ในเขตชานเมืองด้านทิศตะวันตกเฉียงเหนือของกรุงปักกิ่ง เป็นพระราชอุทยานที่มีทัศนียภาพที่สวยงามมากแห่งหนึ่ง มีเนื้อที่ทั้งหมด 2.9 ตารางกิโลเมตร ส่วนใหญ่เป็นทะเลสาบคุนหมิง ประกอบด้วยเนื้อที่ที่เป็นนํ้า 3 ส่วน เนื้อที่ที่เป็นดิน 1 ส่วน
- จัตุรัสเทียนอันเหมิน
จัตุรัสเทียนอันเหมิน ตั้งอยู่ในกรุงปักกิ่งประเทศจีน มีพื้นที่ทั้งหมด 440,000 ตารางเมตร ความหมายของเทียนอันเหมิน คำว่า ‘เทียน’ แปลว่า ฟ้า ‘อัน’ แปลว่า ผาสุก ‘เหมิน’ แปลว่า ประตู
จัตุรัสเทียนอันเหมินมีความสำคัญในวัฒนธรรมที่ยิ่งใหญ่เป็นสัญญลักขณ์เพราะว่าจัตุรัสเทียนอันเหมินคือที่ตั้งของเหตุการณ์สำคัญมากมายในประวัติศาสตร์จีน จัตุรัสเทียนอันเหมินเป็นจัตุรัสที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก
จัตุรัสเทียนอันเหมินมีความสำคัญในวัฒนธรรมที่ยิ่งใหญ่เป็นสัญญลักขณ์เพราะว่าจัตุรัสเทียนอันเหมินคือที่ตั้งของเหตุการณ์สำคัญมากมายในประวัติศาสตร์จีน จัตุรัสเทียนอันเหมินเป็นจัตุรัสที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก
- กุ้ยหลิน
กุ้ยหลิน (桂林, Guilin) เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ในเขตปกครองตนเองกวางสี ตอนใต้ของประเทศจีน ประชากรส่วนใหญ่เป็นชาว“จ้วง” ซึ่งถือเป็นชนกลุ่มน้อยที่มีจำนวนมากที่สุดของชนกลุ่มน้อยทั้งหมด ชื่อกุ้ยหลินมาจากที่อดีตดินแดนนี้มีป่า(หลิน)ต้น “กุ้ยฮวย” เยอะ (ต้นกุ้ยฮวย ในภาษาจีน แปลเป็นไทยคือ ต้นขี้เหล็ก) คนกุ้ยหลินได้นำดอกของต้นกุ้ยฮวยมาตากแห้งอบพร้อมใบชา กลายเป็น “ชากุ้ยหลิน”
กุ้ยหลินถือเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงเป็นสถานที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศจีน คนจีนยกให้เป็นดัง “เมืองสวรรค์บนพิภพ”หรือ“ซื่อไหว้เถาหยวน” มีคำกล่าวว่าจิตรกรใดที่ยังไม่เคยมาเมืองกุ้ยหลิน จะไม่สามารถวาดรูปขุนเขาให้สวยงามได้เลย
กุ้ยหลินถือเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงเป็นสถานที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศจีน คนจีนยกให้เป็นดัง “เมืองสวรรค์บนพิภพ”หรือ“ซื่อไหว้เถาหยวน” มีคำกล่าวว่าจิตรกรใดที่ยังไม่เคยมาเมืองกุ้ยหลิน จะไม่สามารถวาดรูปขุนเขาให้สวยงามได้เลย
- เขาง้อไบ๊
เขาง้อไบ๊ หรือ เขาเอ๋อเหมยซันเป็นภูเขาห่างจากเฉินตูราว 160 กิโลเมตร ชื่อของภูเขาแห่งนี้ได้มาจากรูปทรงของภูเขาที่มีลักษณะคล้ายคิ้ว ภูเขาแห่งนี้เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ทางพุทธศาสนาและ ศาสนาเต๋าในประเทศจีนโดยมีอารามต่างๆ 151 แห่ง แต่ส่วนใหญ่ทรุดโทรม ยังคงเหลือที่เที่ยวชมได้ 20 แห่ง เอ๋อเหมยซาน ยอดเขาสูงถึง 3,077 เมตร ช่วงฤดูหนาวจะมีหิมะปกคลุม ซึ่งเป็นที่ตั้งของวัดหัวจ้วง
- ถ้ำหินประตูมังกร(ถ้ำหลงเหมิน)
ถ้ำหลงเหมิน (หลงเหมินสือคู) ถ้ำหินประตูมังกร เป็นกลุ่มถ้ำบนหน้าผา ห่างออกไปทางใต้ 12 กิโลเมตรจากเมืองลั่วหยาง ในมณฑลเหอหนาน สาธารณรัฐประชาชนจีน ทั้งด้านตะวันออกและด้านตะวันตกเป็นภูเขา มีแม่น้ำอี๋สุ่ยไหลผ่านตรงกลาง มองดูเสมือนประตูที่มีมังกรโลดแล่นขนาบอยู่ จึงได้ชื่อว่า หลงเหมินคือ ประตูมังกร อยู่ระหว่างภูเขาเซียงซานทางทิศตะวันออก และภูเขาหลงเหมินทางทิศตะวันตก หันหน้าออกสู่ริมฝั่งแม่น้ำอี้ พื้นที่บริเวณกลุ่มถ้ำมีความยาวจากทิศเหนือจรดทิศใต้ประมาณ 1 กิโลเมตร จัดว่าเป็น 1 ใน 3 แหล่งปฏิมากรรมโบราณที่ประกอบด้วย ถ้ำผาม่อเกา ถ้ำผาหลงเหมิน และถ้ำผาหยุนกัง ที่มีชื่อเสียงที่สุดในจีน สถานที่นี้เป็นช่องทางสำคัญทางการคมนาคมที่มีภูเขาสีเขียว และน้ำใสอีกทั้งอากาศก็ดี จึงเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงโด่งดังของนักเขียนและปัญญาชนจีน ในสมัยต่างๆ นอกจากนี้ หินในสถานที่นี้ก็มีคุณภาพดีเหมาะสำหรับการแกะสลัก ฉะนั้นคนจีนในสมัยโบราณจึงเลือกสถานที่นี้ขุดเจาะถ้ำหิน
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ :
ชื่อ บริษัท ไอแอมทัวร์ เอ็กซ์เพิร์ธ
เซ็นเตอร์ อินเตอร์ กรุ๊ป จำกัด
ที่อยู่ 600/24 โครงการ บีสแควร์พระราม9-เหม่งจ๋าย
ซ.สหการประมูล
แขวง/เขต วังทองหลาง กรุงเทพฯ 10310
โทร 02-530-7200 / 02-530-7202 / 02-530-7145 / 02-530-7148
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น