- เมืองเพตร้า
เมืองเพตร้า (ได้รับการประกาศให้เป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโกปี ค.ศ. 1985 และ 1 ใน 7 สิ่ง มหัศจรรย์ของแห่งโลกใหม่ จากการตัดสินโดยการโหวตจากบุคคลนับล้านทั่วโลกในวันมหัศจรรย์ 07/ 07/ 07) มหานครสีดอกกุหลาบที่ซ่อนตัวอยู่ในหุบเขาแห่งโมเสส (WADI MUSA) มีประวัติศาสตร์อันยาวนานหลาย พันปีเคยเป็นถิ่นที่อยู่อาศัยทั้งชาวอีโดไมท์ จวบจนกระทั่งถึงยุครุ่งเรืองเฟื่องฟูในการเข้ามาครอบครองดินแดน ของชาวอาหรับเผ่าเร่ร่อนนาบาเทียน ในช่วงระหว่าง 100 ปี ก่อนคริสตกาล – ปี ค.ศ 100 และได้เข้ามาสร้าง อาณาจักร, บ้านเมือง ฯลฯ จนกระทั่งในปีค.ศ. 106 นครแห่งนี้ตกอยู่ภายใต้การปกครองของอาณาจักรโรมันที่นำ โดย กษัตริย์ทราจัน และได้ผนึกเมืองแห่งนี้ให้เป็นหนึ่งในอาณาจักรโรมันแห่งแหลมอาระเบียตะวันออก
นครเพตร้าถึงคราวล่มสลายเมื่อหมดยุคของอาณาจักรโรมันทำให้ชาวเมืองนั้นละทิ้งบ้านเมืองจากกันไปหมดทิ้ง ให้เมืองแห่งนี้รกร้างไปพร้อมกับการพังทลายของเมืองหลังจากเกิดแผ่นดินไหวหลายครั้งจนสูญหายนับพันปี จวบจนในปี ค.ศ. 1812 นักสำรวจเส้นทางชาวสวิส นาย โจฮันน์ ลุดวิก เบิร์กฮาดท์ ได้ค้นพบนครศิลาแห่งนี้ และนำไปเขียนในหนังสือชื่อ “TRAVEL IN SYRIA” จนทำให้เริ่มเป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายจนถึงปัจจุบัน
- ทะเลเดดซี
ทะเลที่ถูกบันทึกลงในหนังสือ กินเนสส์ ว่า เป็นจุดที่ต่ำทีสุดในโลก มีความต่ำกว่า ระดับน้ำทะเลถึง 400 เมตร และ มีความเค็มที่สุดในโลกมากกว่า 20 เปอร์เซนต์ของน้ำทะเลทั่วไป ทำให้ไม่มีสิ่งมีชีวิตใดเลยอาศัยอยู่ได้ในท้องทะเลแห่งนี้
- ภาพวาดศิลปะแบบ เฟรสโก (FRESCO)
ภาพวาดศิลปะแบบ เฟรสโก (FRESCO) 1 ใน 3 มรดกโลกของประเทศจอร์แดนทางศิลปะ ที่หาดูได้ยากมากในปัจจุบัน เป็นภาพที่เขียนวาดเรื่องราว เกี่ยวกับขั้นตอนการสร้างสถานที่แห่งนี้, การล่าสัตว์, นางรำ ฯลฯ ภายในประกอบไปด้วย ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า, ห้องอาบน้ำอุ่น, ห้องอบไอน้ำ และ ห้องนอนพักผ่อน
- ป้อมอาซรัก
ป้อมอาซรัก สร้างขึ้นโดยหินภูเขาไฟสีดำทั้งหมดในสมัยโรมัน ป้อมแห่งนี้ได้เป็นที่รู้จักของคนทั่วไป คือ เป็นศูนย์บัญชาการกองทัพของชาวอาหรับในสมัยนั้น นำโดยนายทหารชาวอังกฤษ ทีอี ลอเรนท์ หรือ ที่ชาวโลก รู้จักกันในนามของ ลอเรนท์ ออฟ อาระเบียในการทำ ศึกสงครามโลกอาหรับ (THE ARAB REVOLT ใน ระหว่างปี ค.ศ. 1916–1918) เป็นการต่อสู้ของชาวอาหรับที่ต่อต้านการเข้ามารุกรานแผ่นดินของชาวออตโตมัน
- ปราสาทคารานา
ปราสาทคารานา สร้างขี้นเพื่อใช้เป็นที่พักของกองคาราวานที่หยุดพักระหว่างการเดินทางภายใน ประกอบด้วยห้องพักจำนวน 61 ห้อง แบ่งเป็น 2 ชั้น และยังมีคอกที่อยู่อาศัยของม้า และอูฐ
- ป้อมปราการแห่งกรุงอัมมาน (CITDAEL)
ป้อมปราการแห่งกรุงอัมมาน (CITDAEL) ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นจุดสังเกตเหตุบ้าน การเมืองต่าง ๆรอบเมือง โดยมีฉากหลังเป็นโรงละครโรมันที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศจอร์แดน จุผู้ชมได้ถึง 6,000 คน และ ตึกรามบ้านช่องที่ตั้งอยู่บนภูเขาสูง อันแปลกตายิ่งนัก
- วิหารเฮอร์คิวลิส
วิหารเฮอร์คิวลิส ที่สันนิษฐานว่าน่าจะถูกสร้างขึ้นระหว่างปี ค.ศ. 161–180 ในสมัยโรมัน พระราชวังเก่าอุมเมยาด สร้างขึ้นในประมาณปี ค.ศ. 720 โดยผู้นำชาวมุสลิม ของราชวงศ์ ในสมัยมุสลิมได้เข้ามา ปกครองประเทศจอร์แดน ซึ่งภายในประกอบห้องทำงาน, ห้องรับแขก ฯลฯ
- ปราสาทแห่งเมืองอัจลุน
ปราสาทแห่งเมืองอัจลุน ถูกสร้างโดยพวกนักรบมุสลิม ในปี ค.ศ. 1184-1185 ใช้เป็นป้อมทหารในการต่อสู้ รบกับพวกนักรบครูเสด และในปี ค.ศ. 1260 ถูกเข้าทำลายโดยกองทัพมองโกลส์
- เมาท์ เนโบ
เมาท์ เนโบ ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ที่ตั้งอยู่บนเขาซึ่งเชื่อกันว่าน่าจะเป็นบริเวณที่ เสียชีวิตและฝังศพของโมเสส ผู้นำชาวยิวส์เดินทางจากประเทศอิยิปต์มายังเยรูซาเล็ม โบสถ์แห่งเมาท์เนโบ สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในราวปี ค.ศ.300 -400 ในช่วงยุคไบแซนไทน์ เพื่อเป็นที่ระลึกถึง โมเสส
ภายในโบสถ์ประกอบไปด้วยภาพโมเสกสีบนพื้นโบสถ์อันล้ำค่ำ แสดงถึงภาพชีวิตสัมพันธ์ระหว่างคน, สัตว์ และธรรมชาติ, รูปคน ฯลฯ และยังมีแท่นพิธี ม้านั่ง ตามรูปแบบของศาสนาคริสต์ไว้ประกอบพิธีต่าง ๆ และอนุญาตให้ใช้ในปัจจุบัน, รูปภาพและรายละเอียดต่างๆ แสดงถึงการบูรณะโบสถ์, บ่อศีลจุ่ม ฯลฯ ในปี ค.ศ. 2000 โป๊ป จอห์น ปอลที่ 2 เสด็จมาแสวงบุญที่นี่และได้ประกาศให้เป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ อนุสรณ์ไม้เท้าศักดิ์สิทธ์แห่งโมเสส ออกแบบเป็นลักษณะเป็นไม้เท้าในรูปแบบไม้กางเขน โดยอุทิศเป็น สัญลักษณ์ของโมเสส และพระเยซู
- เอล-คาซเนท์ ( EL-KHAZNEH / TREASURY)
เอล-คาซเนท์ ( EL-KHAZNEH / TREASURY) สันนิษฐานว่าจะสร้างในราวศตวรรษที่1-2 โดยผู้ปกครองเมืองในเวลานั้น เป็นวิหารที่แกะสลักโดยเจาะเข้าไปในภูเขาสีชมพูทั้งลูก มีความสูง 40 เมตร และ มีความกว้าง 28 เมตร วิหารแห่งนี้ได้ถูกออกแบบโดยได้รับอิทธิพลศิลปะของหลายชาติเข้าด้วยกัน เช่น อิยิปต์, กรีก, นาบาเทียน ฯลฯ ภายในประกอบด้วย 3 ห้อง คือ ห้องโถงใหญ่ตรงกลาง และ ห้องเล็กทางด้านซ้ายและขวา
เดิมทีถูกเชื่อว่าเป็นที่เก็บขุมทรัพย์สมบัติของฟาโรห์อิยิปต์ แต่ภายหลังได้มีการขุดพบทางเข้าหลุมฝังศพที่หน้า วิหารแห่งนี้ ทำให้นักประวัติศาสตร์และนักโบราณคดีได้ลงความเห็นตรงกันว่า น่าจะสร้างขึ้นเพื่อเป็นการเฉลิม ฉลองให้กับผู้ปกครองเมือง, ใช้เป็นสถานที่ทำพิธีกรรมทางศาสนา และเป็นสุสานฝังศพของผู้ปกครองเมืองและ เครือญาติ เดิมชมสุสานต่างๆ ของชาวนาบาเทียน, สุสานกษัตริย์ ฯลฯ
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ :
ชื่อ บริษัท ไอแอมทัวร์ เอ็กซ์เพิร์ธ
เซ็นเตอร์ อินเตอร์ กรุ๊ป จำกัด
ที่อยู่ 600/24 โครงการ บีสแควร์พระราม9-เหม่งจ๋าย
ซ.สหการประมูล
แขวง/เขต วังทองหลาง กรุงเทพฯ 10310
โทร 02-530-7200 / 02-530-7202 / 02-530-7145 / 02-530-7148
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น