วันจันทร์ที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2558

ชิราคาวาโกะ-(Shirakawago)

ชิราคาวาโกะ-(Shirakawago)

ชิราคาวาโกะ (Shirakawa-Go) เป็นหมู่บ้านชาวนาเล็กๆ ในหุบเขา ซึ่งเป็นเส้นทาง ระหว่าง ทาคายาม่า และ คานาซาว่า เป็นหมู่บ้านที่ได้รับการเลือกให้เป็นหมู่บ้านมรดกโลก ที่ได้รับการอนุรักษ์ สภาพของหมู่บ้านไว้เป็นอย่างดี วันนี้ครับ วันที่เจ็ดของการเดินทางเที่ยวประเทศญี่ปุ่นครั้งนี้ เราจะมาเดินทางเยี่ยมชม หมู่บ้าน มรดกโลกกัน

ชิราคาวาโกะ (Shirakawago)
ผมเริ่มต้นการเดินทางจากโอซาก้าครับ ออกจากโรงแรม Hotel Consort Shin Osaka ด้วยเวลาที่เช้าที่สุดเท่าเดิมครับ เพื่อไปให้ทันรถด่วน ชินคันเซ็นขบวนแรกขึ้นจาก ชินโอซาก้า (Shin-Osaka) เพื่อนั่งไปยังสถานี นาโงย่า (Nagoya) ครับ ก่อนอื่น ด้วยความหิว ขอรับประทานข้าวกล่องที่ซื้อมาก่อนนะครับ
ข้าวกล่อง ขาไป ชิราคาวาโกะ
จากนั้นเราก็นั่ง เจ้ารถไฟ Hida-Wideview เพื่อไปทาคายาม่ากัน สิ่งที่ผมประทับใจในการเดินทางครั้งนี้ ก็คือวิวสวยๆ ระหว่างการเดินทางจาก นาโงย่า ไป ทาคายาม่า นี่แหล่ะครับ พอออกเดินทางจาก นาโงย่า แล้ว สักพักก็พบว่า รถไฟกำลังพาเราผ่านภูเขา แม่น้ำ สะพาน หลายๆแหล่งที่สวยงามมาก
Hida-Wide View
อย่างภาพที่ผมประทับใจ ก็จะเป็นภาพเขื่อนที่เค้าใช้ผลิตกระแสไฟฟ้ากัน แต่ด้วยความที่ ฝีมือไม่ถึง เวลาถ่ายรูปบนรถไฟที่วิ่งเร็วๆ ภาพมันออกเบลอครับ
เขื่อน ระหว่างทางไป ชิราคาวาโกะ
อีกภาพที่ประทับใจก็จะเป็น ภาพที่รถไฟวิ่งผ่านภูเขา และระหว่างภูเขามีลำธาร สวยงามมาก แต่ก็เสียดายอีกว่า รถไฟวิ่งอยู่ประกอบด้วยเงาของกระจก ภาพเลยไม่ค่อยเนียนเท่าไร แต่ก็สวยงามพอใช้ได้เลยทีเดียว
แม่น้ำ ลำธาร
เขตเมืองชนบท ที่ล้อมรอบด้วย หุบเขา อันเขียวขจี ท้องฟ้าอันสดใส และแม่น้ำที่ใสสะอาด ช่างน่าอยู่อะไรเช่นนี้ เข้าใจว่านี่เป็นอ่างเก็บน้ำที่หนึ่ง ที่อยู่ระหว่างทางไปเมือง ทาคายาม่า (Takayama)
อ่างเก็บน้ำ ทางผ่านไป ชิราคาวาโกะ
และแล้ว เราก็มาถึงเมืองเล็กๆ อันเงียบสงบ เมืองทาคายาม่ากันครับ ผมมาถึงที่นี่ก็เจอคนไทยไม่น้อยเลยทีเดียว บางคนมาเที่ยวครั้งแรกก็มาที่เมือง ทาคายาม่า แห่งนี้เลย เพราะมันเป็นความฝันของเค้า เมืองเล็กอักแสนสงบสุข
เมือง ทาคายาม่า
และสิ่งที่ประทับใจ ทุกครั้งที่มาญี่ปุ่น ก็จะต้องพูดถึงความสะอาดทุกครั้ง ทั้งถนนหนทาง แม่น้ำ ไม่มีขยะแม้แต่ชิ้นเดียวให้ได้พบเห็น แม่น้ำลำธาร ใสบริสุทธิ์มาก ถึงขนาดเลี้ยงปลาคาร์ปได้เลยทีเดียว แลดูรักษาธรรมชาติมาก อาจจะเป็นเพราะ ประเทศญี่ปุ่นมีความตื่นตัวเรื่องสุขภาพ และตระหนักถึงคุณค่าของธรรมชาติมากก็ได้
คลองในเมือง ทาคายาม่า
เรามาที่เมืองทาคายาม่า เพื่อมาต่อรถบัสไป ชิราคาวาโกะ อีกทีนึงครับ ท่าเทียบรถของนูฮิบัส (http://www.nouhibus.co.jp/english/) จะอยู่ข้างๆ กับสถานีรถไฟ ทาคายาม่าเลยครับ ซึ่งเราจะต้องซื้อตั๋ว ก่อนที่จะขึ้นรถครับ ซื้อเสร็จแล้วก็มารอรถที่ ป้าย แล้วก็ขึ้นตามลำดับ ใครขึ้นก่อนก็ได้เลือกที่นั่งก่อนครับ แนะนำให้เลือกข้างหน้าต่าง เพราะวิวสวยมากเลยทีเดียวครับ

นูฮิบัส ไปชิราคาวาโกะ
แล้วเราก็มาถึงเมือง ชิราคาวาโกะ กันครับ สิ่งแรกที่เห็นจากจุดจอดรถก็จะเป็นสะพานอันนี้แหล่ะครับ สะพานที่ทอดยาวเพื่อข้ามแม่น้ำ ไปยังหมู่บ้านมรดกโลก ชิราคาวาโกะ นั่นเองครับ
สะพานเข้าสู่หมู่บ้าน มรดกโลก ชิราคาวาโกะ
เมื่อเดินข้ามมาถึงหมู่บ้าน ก็เป็นไปตามภาพที่เคยเห็นตามโปสเตอร์ประชาสัมพันธ์ครับ หลังคาบ้าน แบบกัสโซ่ (Gassho-style) ที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นมรดกโลก มีเพียงไม่กี่ที่ในโลก ว่ากันว่า การเปลี่ยนหลังคาแต่ละครั้ง ใช้เงินต่อหลังร่วม ยี่สิบล้านเยนเลยทีเดียว
บ้านทรง กัสโซ่
เดินไปเดินมา เริ่มหิวครับ เพราะกว่าจะมาถึงที่นี่ก็กินเวลาไปนานอยู่ เดินแป๊บเดียวก็เที่ยงเข้าไปแล้ว เราก็เลยมองหาของกิน ว่ามีร้านไหนบ้างนะที่ขายของกิน
เมือง ชิราคาวาโกะ
เดินไปเดินมาได้วิวสวยๆ ก็เลยถ่ายรูปมาเก็บไว้ก่อนครับ
วิวในหมู่บ้าน ชิราคาวาโกะ
และแล้ว เราก็ค้นพบ ร้านค้าครับ ร้านนี้คนเดินเข้าไปเยอะมากครับ พอเข้าไปก็ได้สัมผัสถึงไออุ่นภายในร้านกันเลยทีเดียวครับ
ร้านอุด้ง ในชิราคาวาโกะ
อากาศหนาวๆแบบนี้ สั่งอะไรก็ไม่อร่อยเท่า อุด้ง ชามนี้แล้วครับ
อุด้งอร่อยๆ
กินอิ่มหนำสำราญใจ ก็เดินทางไปจุดชมวิวกัน ใจนึงก็กลัวว่า จะกลับมาไม่ทันรถบัส แต่ก็ ไปก็ไปครับ มาแล้วทั้งที ด้วยความกลัวไม่ทัน เราก็วิ่งกันเลยครับ ก็มีแรงแล้ว ก็วิ่งไปให้ถึงครับ ตรงนี้มีอะไรอยากแชร์นิดนึงครับ จุดชมวิวนี้จะมีทางไปสองทาง ทางแรกคือทางที่เจอก่อน คือทางที่ต้องปีนขึ้นเขาไป พอปีนได้ แต่เหนื่อยมาก ทางที่สองเดินเลยไปหน่อย จะเป็นทางเรียบๆ เดินขึ้นไปสบายๆเลย ที่ผมรู้เพราะขาไป ขึ้นอย่างลำบาก ขากลับลงอย่างสบายมาแล้ว
จุดชมวิว ชิราคาวาโกะ
แล้วก็สมกับที่เรา เหน็ดเหนื่อยดั้นด้นกันขึ้นมาครับ เพราะวิวข้างบนก็สวยจริงๆ แต่เสียดายอยู่อย่างเดียวเวลานี้เป็นเวลา บ่าย แล้ว แสงมันย้อนเข้ามาในกล้อง ถ่ายรูปออกมาได้ไม่สวยนัก แต่ถ้าถ่ายภาพจากจุดนี้ก็จะเห็นครอบคลุมทั้งหมู่บ้านครับ
วิว หมู่บ้าน ชิราคาวาโกะ
มาดูกันชัดๆอีกภาพครับ ภาพนี้เป็นภาพที่คนนิยมถ่ายกันมากครับ และจุดที่ถ่ายนี้ ก็มีคนอย่างเยอะเลยครับวิวหมู่บ้าน ชิราคาวาโกะ ซูม
หลังจากลงจากจุดชมวิว เวลาเหลือ ก็เลยมีเวลาเก็บภาพ วิวอันสวยงามกันครับ
วิวในหมู่บ้าน
มาดูหลังคาแบบ กัสโซ่ กันให้ชัดๆไปเลยครับกับรูปนี้
หลังคาบ้าน ทรงกัสโซ่
แล้วก็ ส่วนตัวผมชอบภาพนี้ครับ เป็นภาพที่ดูสดใสดีครับ
กระท่อมชาวนา ชิราคาวาโกะ
แล้ววันนี้ก็ถึงเวลาต้องเดินทางกลับแล้ว เราพักกันอยู่ที่โอซาก้าครับ ก็ต้องกลับทาคายาม่า ต่อไปนาโงย่า แล้วก็ไปโอซาก้าอีกทีหนึ่งครับ ตอนเดินทางกลับ รถไฟล่าช้ากว่ากำหนดด้วยครับ ช้าไปเป็นชั่วโมง เห็นบอกว่า เหตุเกิดจาก เส้นทางรถไฟมีสิ่งกีดขวาง เจ้าหน้าที่เลยต้องเสียเวลา เคลื่อนย้ายออกกันครับ และวันนี้เราก็หมดไปอีกวันสำหรับการท่องเที่ยวหมู่บ้าน มรดกโลก ชิราคาวาโกะ ครับ
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ :

ชื่อ บริษัท ไอแอมทัวร์ เอ็กซ์เพิร์ธ เซ็นเตอร์ อินเตอร์ กรุ๊ป จำกัด
ที่อยู่ 600/24 โครงการ บีสแควร์พระราม9-เหม่งจ๋าย ซ.สหการประมูล
แขวง/เขต วังทองหลาง กรุงเทพฯ 10310

โทร 02-530-7200 / 098-283-3166


ถนนสายกาน้ำชา



ถนนสายกาน้ำชา คือ ถนนทางขึ้นวัดคิโยมิสึ (Kiyomizu-dera) เนื่องจากสมัยก่อนเคยมีร้านขายถ้วยชาที่เป็นเครื่องปั้นดินเผาเรียงรายตลอด 2 ข้างทาง ในปัจจุบันนี้กลายเป็นร้านขายของที่ระลึกมากมาย แต่ก็ยังคงหลงเหลือร้านขายถ้วยชาอยู่บ้างให้พอได้สัมผัสบรรยากาศวัฒนธรรมเก่าแก่โบราณ 


บริเวณทางเดินขึ้นวัดแห่งนี้ เต็มไปด้วยร้านขายของที่ระลึก เช่น ชุดกิโมโน ตุ๊กตา ร่ม แม่เหล็กติดตู้เย็น เข็มกลัด หรือของที่เกี่ยวกับศาสนา ความเชื่อ พวกเครื่องราง และอื่นๆ อีกมากมาย นอกจากของเล็กๆ น้อยๆ ยังมีขนมที่มีส่วนผสมของชาเขียวให้เลือกชิม และเลือกซื้ออย่างมากมาย 


สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ :
ชื่อ บริษัท ไอแอมทัวร์ เอ็กซ์เพิร์ธ เซ็นเตอร์ อินเตอร์ กรุ๊ป จำกัด
ที่อยู่ 600/24 โครงการ บีสแควร์พระราม9-เหม่งจ๋าย ซ.สหการประมูล
แขวง/เขต วังทองหลาง กรุงเทพฯ 10310

โทร 02-530-7200 / 098-283-3166



วัดคิโยมิซึเดระ – วัดน้ำใส (Kiyomizu-dera Temple)

วัดคิโยมิซึเดระ – วัดน้ำใส (Kiyomizu-dera Temple)

วัดคิโยมิซึเดระ (Kiyomizu-dera Temple) หรืออีกชื่อหนึ่งคือ วัดน้ำใส เป็นวัดที่มีชื่อเสียงที่สุดของเกียวโตวัดหนึ่ง ตั้งอยู่ทางภาคตะวันออกของเกียวโต วัดคิโยมึซึเดระ นี้ได้รับการคัดเลือกให้เป็นหนึ่งในอนุสรณ์สถานที่สำคัญในประวัติศาสตร์เกียวโตโบราณ และยังได้รับการรับรองให้เป็นมรดกโลก จาก UNESCO อีกด้วย
ประตู วัดคิโยมิซึเดระ
ประตู วัดคิโยมิซึเดระ

ประวัติ

วัดคิโยมิซึเดระ ได้ถูกสร้างขึ้นในช่วงต้นยุคเฮอัน ประมาณปี ค.ศ. 798 สิ่งก่อสร้างที่เราได้เห็นอยู่ทุกวันนี้ ล้วนสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1633 ตามคำสั่งของ โตกุกาว่า เอมิซึ (Tokugawa Iemitsu) สิ่งก่อสร้างทั้งหมดไม่ได้ใช้ตะปูแม้แต่ตัวเดียวในการก่อสร้าง วัดนี้ตั้งชื่อตามน้ำตกในบริเวณวัด แปลตรงตัวจากคำว่า คิโยมิซึ แปลว่า น้ำใส
ตรงห้องโถงกลางมีระเบียงขนาดใหญ่ที่รองรับด้วยเสาไม้ขนาดใหญ่เช่นกัน จากระเบียงที่ยื่นออกมาจากหุบเขาทำให้สามารถมองเห็นวิวของเมืองได้อย่างสวยงาม การสร้างระเบียงขนาดใหญ่นี้เป็นรูปแบบการสร้างที่นิยมในช่วงยุค เอโดะ เพื่อรองรับกับนักเดินทางที่หลั่งไหลเข้ามา
สมัยเอโดะมีวลียอดฮิตของญี่ปุ่น “โดดระเบียงที่คิโยมิซึ” (to jump off the stage at Kiyomizu) ซึ่งเทียบเท่ากับสำนวนอังกฤษว่า “การตัดสินใจกระทันหัน” (to take the plunge) วลีนี้อ้างอิงมาจากการกระทำจริงในสมัขเอโดะ ถ้าใครโดดจากระเบียงสูง 13 เมตรที่วัดคิโยมิซึ แล้วรอดมาได้ ความปารถนาจะเป็นจริง จากสถิติที่เคยบันทึกไว้ 234 ครั้งในยุคเอโดะ พบว่า 85.4% รอดชีวิตจากการโดดครั้งนี้ แต่ในปัจจุบันนี้ ห้ามทดลองโดดอีกแล้ว
ใต้ห้องโถงของ วัดคิโยมิซึเดระ มีน้ำตกสามสายไหลลงมาที่สระน้ำ น้ำในสระที่ว่าก็คือ น้ำใส ที่เชื่อกันว่า ดื่มไปแล้วจะทำให้สมหวังในสิ่งที่ปารถนาไว้
ในบริเวณวัดยังประกอบไปด้วยศาลเจ้าต่างๆมากมายเช่น ศาลเจ้าจินชู (Jinshu Shrine) ที่สร้างไว้สำหรับบูชาเทพเจ้าแห่งคู่และความรัก ในศาลเจ้านี้จะมีหินแห่งความรักคู่หนึ่งอยู่ห่างกันประมาณ 6 เมตร 20 ฟุต ถ้าคนไม่มีคู่ สามารถหลับตาเดินจากหินก้อนหนึ่ง ไปยังหินอีกก้อนหนึ่งได้ ก็จะเจอคู่แท้ คู่รักบางคู่ก็มาด้วยกันแล้วก็มีการบอกทางกันระหว่างที่อีกคนปิดตาก็มี เพื่อความรักที่ราบรื่นมากขึ้น
และในปี 2007 วัดคิโยมิซึเดระ ก็ได้เข้ารอบ 21 สถานที่สุดท้ายที่ได้คัดเลือกเป็นหนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ของโลก แต่น่าเสียดายที่ไม่ได้เป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก

บรรยากาศ

วัดคิโยมิซึเดระ
วัดคิโยมิซึเดระ
ทางเดินที่จะไป วัดคิโยมิซึเดระ มีแผ่นหินโบราณปูเรียงรายกันขึ้นไป ร้านค้าในละแวกนั้นก็รักษาบรรยากาศเมืองหลวงเก่าได้เป็นอย่างดี ร้านค้ามีขายของที่ระลึกมากมายให้เลือชมกัน พอถึงบริเวณทางเข้าวัดก็จะซุ้มประตู สีแดงสด (ออกส้ม) ขนาดใหญ่ตั้งอยู่เป็นทางเข้า พอเดินเข้ามาอีกระยะก็จะเป็นทางเข้าวัดจริง วัดคิโยมิซึเดระ จะอยู่ริมหุบเขา ถ้าอยากถ่ายภาพที่มุมยอดฮิต มุมที่เห็นระเบียงและเสาค้ำระเบียง ที่ว่ากันว่าไม่ใช้ตะปูแม้แต่ตัวเดียว ต้องเดินเลยบริเวณที่เป็นห้องโถง และระเบียงออกมาอีกหน่อยให้ถึงทางเดินฝั่งตรงข้ามจึงจะถ่ายได้

ข้อควรรู้

ค่าเข้าชมห้องด้านใน 300 เยน

การเดินทาง

สายรถเมลล์ที่ผ่านมี 100,202,206,207 นั่งมาลงที่ป้าย Kiyomizu-Michi แล้วเดินเข้าไปตามทางที่ปูด้วยหินจะเจอร้านค้ามากมายอยู่สองข้างทาง และปลายทางจะเป็นทางเข้าวัด

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ :

ชื่อ บริษัท ไอแอมทัวร์ เอ็กซ์เพิร์ธ เซ็นเตอร์ อินเตอร์ กรุ๊ป จำกัด
ที่อยู่ 600/24 โครงการ บีสแควร์พระราม9-เหม่งจ๋าย ซ.สหการประมูล
แขวง/เขต วังทองหลาง กรุงเทพฯ 10310

โทร 02-530-7200 / 098-283-3166


วัดคินคะคุจิ (Kinkaku-ji Temple)

วัดคินคะคุจิ (Kinkaku-ji Temple)


วัดคินคะคุจิ
วัดคินคะคุจิ (Kinkaku-ji Temple)  
หรือบางทีเราก็เรียกว่าวัดทอง เป็นวัดเก่าแก่ของเมืองเกียวโต มีตำนานเกี่ยวกับการ์ตูนเรื่องอิกคิวซัง ที่วัดนี้ วัดนี้เคยเป็นที่พำนักของโชกุนอาชิคางะ โยชิมิซึ (Shogun Ashikaga Yoshimitsu) ผู้ที่ชอบทายปุจฉา – วิสัชนา กับอิกคิวซังในการ์ตูน

ประวัติ

แรกเริ่มเดิมทีวัดคินคะคุจินี้ไม่ได้เป็นวัดอย่างที่เรารู้กัน แต่เป็นบ้านพักตากอากาศ ของรัฐบุรุษนาม ไซออนจิ คิซึเนะ (Sionji Kitsune) บ้านพักตากอากาศนี้ชื่อเดิมเรียกว่า คิตายาม่าได (Kitayama-dai) จนกระทั่งในปี 1397 โชกุนอาชิคางะ โยชิมิซึ ได้ซื้อบ้านพักตากอากาศต่อจาก ไซออนจิ และเปลี่ยนเป็นที่พำนักของโชกุนโดยตั้งชื่อว่า “คินคะคุจิ ” ต่อมาเมื่อโชกุน โยชิมิซึ เสียชีวิต ที่พำนักของโชกุนก็ได้ถูกเปลี่ยนเป็นวัดแบบเซน โดยลูกชายของเขา
ปี 1950 วัดคินคะคุจิถูกเผา ระหว่างสงครามโอนิน เผาโดยพระฝึกหัดที่อยู่ในวัดชื่อฮายาชิ โยเคน (Hayashi Yoken) ในวันที่ 2 กรกฎาคม ปีนั้น ต่อมาในปี 1955 วัดคินคะคุจิ ได้ค่อยๆถูกบูรณะขึ้น ทีละส่วน รวมไปถึงรูปปั้นโชกุนอาชิคางะ โยชิมิซึ และการตกแต่งภายใน บูรณะแล้วเสร็จทั้งวัดในปี ค.ศ. 2003
ทางเดินวัดคินคะคุจิ

บรรยากาศ

บรรยากาศภายในวัดจะเป็นการจัดสวนแบบเซน มีการจัดให้ ปราสาททองคำอยู่ตรงกลางสระน้ำ ภาพสะท้อนปราสาททองคำที่อยู่ในสระน้ำ ทำให้ปราสาทดูสวยงามและมีความขลังมากขึ้น รวมกับการจัดสวนที่สวยงามแล้วก็ยิ่งทำให้วัดคินคะคุจิแห่งนี้ดูน่าสนใจเข้าไปอีก

ข้อควรรู้

  • การ์ตูนอิกคิวซังเป็นเรื่องแต่ง ไม่ใช่เรื่องจริง แต่โชกุนอาชิคางะ โยชิมิซึ มีตัวตนจริง
  • ขาตั้งกล้องไม่สามารถนำเข้าไปใช้ด้านในได้
  • ค่าเข้าชมคนละ 400 เยน หรือประมาณ 160 บาท

การเดินทาง

ถ้ามาจากสถานีเกียวโต และใช้ JR Pass แนะนำให้ขึ้นรถไฟมาลงที่สถานีเอ็นมาจิ (Enmachi) แล้วขึ้นรถประจำทางสาย 204, 205 มาลงหน้าวัดคินคะคุจิได้เลย

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ :

ชื่อ บริษัท ไอแอมทัวร์ เอ็กซ์เพิร์ธ เซ็นเตอร์ อินเตอร์ กรุ๊ป จำกัด
ที่อยู่ 600/24 โครงการ บีสแควร์พระราม9-เหม่งจ๋าย ซ.สหการประมูล
แขวง/เขต วังทองหลาง กรุงเทพฯ 10310

โทร 02-530-7200 / 098-283-3166


ปราสาทโอซาก้า

ปราสาทโอซาก้า


ปราสาทโอซาก้า

รายละเอียด    
             ปราสาทโอซาก้าเป็นสัญญลักษณ์อย่างหนึ่งของเมืองโอซา ก้า สร้างขึ้นเป็นครั้งแรกบนบริเวณที่เคยเป็นวัด Osaka Hongan-ji เมื่อปีค.ศ.1583 โดย Toyotomi Hideyoshi (ค.ศ.1537-1598) นักรบระดับไดเมียวผู้พยายามรวบรวมประเทศเป็นครั้งแรก ยอดประสาทหรือส่วนที่เรียกว่า Tenshukaku แล้วเสร็จลงสองปีต่อมา แต่หลังจากสงคราม Osaka Natsu No-jin ในปีค.ศ.1615 ตระกูล Toyotomi ถูกฆ่าล้างโคตร Tenshukaku ก็ถูกทำลายลงย่อยยับ ต่อมาได้รับการบูรณะใหม่ในสมัย Tokugawa แต่น่าเสียดายที่ในปีค.ศ.1665 ได้ถูกฟ้าฝ่าเสียหายย่อยยับอีกครั้งหนึ่ง ทำให้ปราสาทโอซาก้าไม่มี Tenshukaku มานานปี จนกระทั่งในปี 1931 นายกเทศมนตรีเมืองโอซาก้า นาย Seki ได้ขอรับเงินบริจาคจากชาวเมืองจำนวนหนึ่งล้านห้าแสนเยน (เท่ากับราว 75,000 ล้านเยนในปัจจุบันนี้) มาบูรณะปราสาทใหม่ ปราสาทโอซาก้าปัจจุบันสูง 55 เมตร มี 5 ส่วน 8 ชั้น เครื่องประดับหลังคาและภาพเสือบนกำแพงตัวปราสาทและหลายๆส่วนลงทองสีอร่ามสวยงาม (ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกสำคัญของประเทศ) บนหอคอยชั้น 8 ของ Tenshukaku ท่านสามารถมองเห็นทิวทัศน์โดยรวมของเมืองโอซาก้าได้อย่างชัดเจน ในแต่ละปีจะมีนักท่องเที่ยวจากทั้งในและนอกประเทศมาเยือนปีละราว 1-3 ล้านคน

              นอกจากตัว Tenshukaku อันงดงามแล้ว ภายในตัวปราสาท ยังมีนิทรรศการแสดงหลัก
    ฐาน ภาพเขียน เครื่องแต่งกายโบราณ ฯลฯที่เกี่ยวข้องกับประสาทและตระกูล Toyotomi อยู่ 
    ส่วนบริเวณรอบๆปราสาทก็เป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่มีดอกไม้ใบไม้งามสะพรั่งในทุกๆ
    ฤดู เป็นที่พักผ่อนหย่อนใจของชาวเมืองด้วย
   ที่อยู่
1-1 OsakaJo,Chuo-ku,Osaka City 
เวลาทำการ
9.00-17.00 น. (เปิดให้เข้าได้จนถึง 16.30 น. ในบางฤดูกาลจะเปิดให้เข้านานกว่าปกติ) ใช้เวลาในการชมตัวปราสาททั้งหมดราว 60 นาที
วันหยุด
ช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ (ราววันที่ 28 ธันวาคมถึงวันที่ 1 มกราคม)
คมนาคม
เดินเท้าจาก JR Morinomiya Sta. หรือ Osakajokoen Sta.(exit No.1 and 3) ราว 15-20 นาที
ค่าผ่านประตู
ผู้ใหญ่ 600 เยน เด็กนักเรียนต่ำกว่าชั้นมัธยมต้น ฟรี
สิ่งอำนวยความสะดวก
ทางเดิน ห้องน้ำและเครื่องอำนวยความสะดวกสำหรับคนพิการพร้อม นำสุนัขสำหรับผู้พิการทางสายตาเข้าได้ มีที่จอดรถ (9.00-18.00น.) ค่าที่จอด ชั่วโมงละ 350 เย
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ :

ชื่อ บริษัท ไอแอมทัวร์ เอ็กซ์เพิร์ธ เซ็นเตอร์ อินเตอร์ กรุ๊ป จำกัด
ที่อยู่ 600/24 โครงการ บีสแควร์พระราม9-เหม่งจ๋าย ซ.สหการประมูล
แขวง/เขต วังทองหลาง กรุงเทพฯ 10310

โทร 02-530-7200 / 098-283-3166

วันอาทิตย์ที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2558

YES LAVENDER FUJI

japan



      •  
      • ไฮไลท์ประจำโปรแกรม:
      • ทัวร์ญี่ปุ่น,เที่ยวญี่ปุ่น,ท่องเที่ยวญี่ปุ่น,ญี่ปุ่นราคาถูก
        สนามบินสุวรรณภูมิ – สนามบินนาโงย่า – ที่ว่าการอำเภอเก่าเมืองทาคายาม่า– ซันมาชิซูจิ – หมู่บ้านมรดกโลกชิราคาวาโกะ – พักออนเซน – บุฟเฟ่ต์ขาปูยักษ์ – ภูเขาไฟฟูจิ (ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศว่าขึ้นได้ถึงชั้นไหน) – ชมทุ่งลาเวนเดอร์ – นั่งรถไฟชินคันเซน – โตเกียว – ช้อปปิ้งชินจูกุ – อิสระเต็มวัน หรือ เลือกซื้อทัวร์โตเกียวดิสนีย์แลนด์ – ตลาดปลาสึกิจิ – วัดอาซากุสะ – ล่องเรือ HIMIKO WATER BUS – ช้อปปิ้งย่านโอไดบะ – สะพานเรนโบว์ – สนามบินฮาเนดะ
      • กำหนดการ:
        • เดือนกรกฎาคม 2558
        • 01-06 กรกฎาคม 2558
        • ราคา
        • 46,900 บาท  

        • สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ :
          ชื่อ บริษัท ไอแอมทัวร์ เอ็กซ์เพิร์ธ เซ็นเตอร์ อินเตอร์ กรุ๊ป จำกัด
          ที่อยู่ 600/24 โครงการ บีสแควร์พระราม9-เหม่งจ๋าย ซ.สหการประมูล
          แขวง/เขต วังทองหลาง กรุงเทพฯ 10310

          โทร 02-530-7200 / 02-530-7202 / 02-530-7145 / 02-530-7148 


    WONDERFUL THEME PARK

    japan



        •  
        • ไฮไลท์ประจำโปรแกรม:
        • ทัวร์ญี่ปุ่น,เที่ยวญี่ปุ่น,ท่องเที่ยวญี่ปุ่น,ญี่ปุ่นราคาถูก
          กรุงเทพฯ –สนามบินสุวรรณภูมิ – สนามบินนาริตะ / ฮาเนดะ – โตเกียวดิสนีย์แลนด์ – ช้อปปิ้งชินจูกุ – วัดอาซะกุสะ – ถนนนากามิเสะ- สะพานอะซุมิบาชิ – ภูเขาไฟฟูจิ(ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศว่าขึ้นได้ถึงชั้นไหน) – แช่ออนเซ็น – บุฟเฟ่ต์ขาปู – อุทยานฮาโกเน่ – ทะเลสาบอาชิ – ล่องเรือโจรสลัด – กระเช้าโอวาคุดานิ – ชิมไข่ดำ – นาโงย่า – เกียวโต – ปราสาทคินคาคุจิ – วัดคิโยมิสึ – ถนนสายกาน้ำชา – รถไฟชินคันเซ็น – โอซาก้า – ปราสาทโอซาก้า – สวนสนุกยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ – ช้อปปิ้งชินไซบาชิ – สนามบินคันไซ
        • กำหนดการ:
          • เดือนกรกฎาคม 2558
          • 29 ก.ค – 04 ส.ค. 58 (วันอาสาฬหบูชา)
          • ราคา
          • 63,900 บาท
            เดือนสิงหาคม 2558
          • 06-12 สิงหาคม 2558 (วันแม่)
          • ราคา
          • 63,900 บาท
          • 21-27 สิงหาคม 2558
          • ราคา
          • 59,900 บาท
            เดือนกันยายน 2558
          • 08-14 กันยายน 2558
          • ราคา
          • 59,900 บาท
          • 22-28 กันยายน 2558
          • ราคา
          • 59,900 บาท  


          • สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ :
            ชื่อ บริษัท ไอแอมทัวร์ เอ็กซ์เพิร์ธ เซ็นเตอร์ อินเตอร์ กรุ๊ป จำกัด
            ที่อยู่ 600/24 โครงการ บีสแควร์พระราม9-เหม่งจ๋าย ซ.สหการประมูล
            แขวง/เขต วังทองหลาง กรุงเทพฯ 10310

            โทร 02-530-7200 / 02-530-7202 / 02-530-7145 / 02-530-7148 

             http://www.japan-expert.com

      YES WONDERFUL TOKYO

      japan


    • JPM02-1 ชื่อโปรแกรม YES WONDERFUL TOKYO(NRT/HND-HND)
      • สายการบิน: TG
        จำนวนวัน: 6 วัน 3 คืน

         
      • ไฮไลท์ประจำโปรแกรม:
      • ทัวร์ญี่ปุ่น,เที่ยวญี่ปุ่น,ท่องเที่ยวญี่ปุ่น,ญี่ปุ่นราคาถูก
        กรุงเทพฯ – นาริตะ/ฮาเนดะ – คาวาโกะเอะ – หมู่บ้านโบราณสีดำ – ย่านคาชิยะโยะโคะโจะ – นั่งกระเช้า Kachi Kachi – ล่องเรือทะเลสาบคาวากูจิโกะ – พักรีสอร์ทสไตล์ญี่ปุ่นแท้ๆ – ภูเขาไฟฟูจิ (ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศว่าขึ้นได้ถึงชั้นไหน) – หมู่บ้านอิยาชิโนะซาโตะ – นั่งรถไฟชินคันเซน – โตเกียว – ช้อปปิ้งชินจูกุ – อิสระเต็มวัน หรือ เลือกซื้อทัวร์โตเกียวดิสนีย์แลนด์ – ตลาดปลาสึกิจิ – วัดอาซากุสะ – ล่องเรือ HIMIKO WATER BUS – ช้อปปิ้งย่านโอไดบะ – สะพานเรนโบว์ – สนามบินฮาเนดะ
      • กำหนดการ:
        • เดือนกรกฎาคม 2558
        • 17-22 กรกฎาคม 2558
        • ราคา
        • 47,900 บาท
        • 29 ก.ค – 03 ส.ค. 58 (วันอาสาฬหบูชา)
        • ราคา
        • 50,900 บาท
        • 30 ก.ค – 04 ส.ค. 58 (วันอาสาฬหบูชา)
        • ราคา
        • 49,900 บาท
          เดือนสิงหาคม 2558
        • 07-12 สิงหาคม 2558 (วันแม่)
        • ราคา
        • 49,900 บาท
        • 11-16 สิงหาคม 2558 (วันแม่)
        • ราคา
        • 49,900 บาท
        • 21-26 สิงหาคม 2558
        • ราคา
        • 47,900 บาท
          เดือนกันยายน 2558
        • 04-09 กันยายน 2558
        • ราคา
        • 47,900 บาท
        • 18-23 กันยายน 2558
        • ราคา
        • 47,900 บาท   
        •                                                                   

          สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ :
          ชื่อ บริษัท ไอแอมทัวร์ เอ็กซ์เพิร์ธ เซ็นเตอร์ อินเตอร์ กรุ๊ป จำกัด
          ที่อยู่ 600/24 โครงการ บีสแควร์พระราม9-เหม่งจ๋าย ซ.สหการประมูล
          แขวง/เขต วังทองหลาง กรุงเทพฯ 10310

          โทร 02-530-7200 / 02-530-7202 / 02-530-7145 / 02-530-7148